นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับ ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ
บริษัท แซท เทรดดิ้ง จำกัด
บริษัท แซท เทรดดิ้ง จำกัด ( “บริษัท” ) เป็นผู้ให้บริการ E-Commerce “ www.gmmz.tv ” และ เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญในความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของ ลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ ที่เป็นบุคคลธรรมดา และ/หรือ นิติบุคคล (รวมเรียกว่า “ท่าน”) ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดให้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับ ลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่ออธิบายให้ท่านทราบว่า บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร ข้อมูลใดบ้างที่บริษัทจัดเก็บ มีวัตถุประสงค์ใดในการประมวลผลข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่างๆ ที่ท่านจะได้รับความคุ้มครองในส่วนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามที่ได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
อนึ่ง นโยบายฉบับนี้ใช้เฉพาะผู้ที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์แล้วเท่านั้น กรณี ผู้ที่อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ ผู้เยาว์ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ ผู้ไร้ความสามารถ ตามกฎหมาย ได้โปรดขอความยินยอมจากพ่อ แม่ หรือ ผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ ผู้อนุบาลเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนส่งข้อมูลใดๆมาให้บริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะไม่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล รวมถึงดำเนินการใดๆกับข้อมูลของผู้ที่อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ ผู้เยาว์ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ ผู้ไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรทั้งสิ้น
- นโยบายนี้มีผลใช้บังคับกับใคร
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท แซท เทรดดิ้ง จำกัด ( “บริษัท”)ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยในฐานะที่ท่านเป็นลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดา และ/หรือ นิติบุคคลที่ติดต่อทำธุรกรรมกับบริษัท และหมายรวมถึง ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจของนิติบุคคล ที่ได้รับมอบหมายโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อทำนิติกรรมสัญญากับบริษัทด้วย
- นิยาม
ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภทที่มีความละเอียดอ่อนและเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ประกอบด้วย เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
ลูกค้า หมายถึง ลูกค้าผู้ใช้บริการสั่งซื้อสินค้าผ่านทาง “ www.gmmz.tv ” หรือช่องทาง Line @gmmz , Facebook GMMZTV ลูกค้าเปิดหน้าบัญชีซื้อขาย รวมถึง การติดต่อสอบถามข้อมูลสินค้า สมัครสมาชิกเพื่อรับจดหมายข่าวสารโปรโมชั่น ส่วนลด จากบริษัทผ่านทาง Email และการติดต่อสอบถามทาง Call Center 02-853-8999
พันธมิตรทางธุรกิจ หมายถึง Vendor Supplier ผู้รับจ้าง ผู้แทนจำหน่าย ตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ที่เป็นบุคคลธรรมดา หรือ องค์กร/ นิติบุคคล และหมายรวมถึง ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจของนิติบุคคลที่ได้รับมอบหมายโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อทำนิติกรรมสัญญากับบริษัทด้วย
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลซึ่งบริษัทจะแจ้งให้ทราบในลำดับต่อไป ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน มีดังต่อไปนี้
กรณีที่ท่านเป็นลูกค้า :
- ข้อมูลส่วนตัวที่บ่งชี้ตัวตน เช่น ชื่อ-นามสกุล
- ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่จัดส่งสินค้า ที่อยู่เพื่อออกใบเสร็จ ชื่อบริษัท เบอร์โทรศัพท์ Email Line ID Facebook ID
- ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลการชำระค่าสินค้า หมายเลขคำสั่งซื้อสินค้า
- ข้อมูลอื่นๆ เช่น ประวัติการซื้อสินค้าและบริการของท่าน
- ข้อมูลที่ได้รับจากการใช้ Website www.gmmz.tv ผ่าน Cookies ของท่าน เช่น Google Analytic ตามนโยบาย Cookiesของบริษัท
กรณีที่ท่านเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ :
- ข้อมูลส่วนตัวที่บ่งชี้ตัวตน เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านของพันธมิตรที่เป็นบุคคลธรรมดา และ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจกรณีที่เป็นนิติบุคคล
- ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ Email Line ID
- ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีและหมายเลขบัญชีธนาคาร เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- ข้อมูลอื่นๆที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามสัญญา เช่น หนังสือรับรองบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคล ภพ20 เป็นต้น
กรณีบริษัทได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของ พันธมิตรทางธุรกิจ ตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ลูกค้าที่เปิดหน้าบัญชีซื้อขายกับบริษัท ที่เป็นบุคคลธรรมดา หรือ ผู้แทน / ผู้รับมอบอำนาจของนิติบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตน และ/หรือทำสัญญาเปิดหน้าบัญชีซื้อขาย สัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย สัญญาจัดซื้อจัดจ้าง สัญญารับจ้างให้บริการกับบริษัท ข้อมูลที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนาและ/หรือ หมู่โลหิต ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่า บริษัทไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (ศาสนา และ หมู่โลหิต) จากท่าน ยกเว้นในกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน ทั้งนี้บริษัทจะกำหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติ และเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต
- แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทาง ดังนี้
กรณีที่ท่านเป็นลูกค้า :
- จากท่านโดยตรง เช่น เมื่อท่านกรอกข้อมูลเพื่อสมัครเป็นสมาชิก Website , สั่งซื้อสินค้า, สมัครสมาชิกรับจดหมายจากบริษัท หรือ ท่านติดต่อสอบถามมายังช่องทาง Call Center 02-853-8999, Line Official @GMMZs Facebook page : GMMZTV ของบริษัท
- การเก็บข้อมูลโดยความสมัครใจของท่าน เช่น การทำแบบสอบถาม (survey) หรือ การโต้ตอบทาง Email หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ
- การเก็บข้อมูลจากการใช้ Website gmmz.tv ผ่าน Cookies ของท่านและการใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
กรณีที่ท่านเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ :
- จากท่านโดยตรง เช่น เมื่อท่านทำธุรกิจกับบริษัท หรือลงนามในสัญญาหรือกรอกแบบฟอร์ม เมื่อท่านมีปฏิสัมพันธ์กับบริษัท รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์ผ่านWebsite ของบริษัท การติดต่อสื่อสารทางEmail โทรศัพท์ แบบสอบถาม นามบัตร ไปรษณีย์ ระหว่างการประชุมและงานกิจกรรมต่าง ๆ หรือ เมื่อบริษัทไปพบท่าน
- จากพันธมิตรทางธุรกิจที่ท่านทำงานให้ ดำเนินการแทน หรือเป็นตัวแทน
- จากบริษัทในกลุ่มและบริษัทย่อยของ GRAMMY หรือบุคคลที่สาม ที่มีสิทธิ์เปิดเผยข้อมูลของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
- วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เว้นแต่ในบางกรณีโดยเฉพาะที่บริษัทต้องอาศัยฐานความยินยอมของท่าน บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัย (1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญาหรือการเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (3) ฐานประโยชน์โดยธรรมของบริษัทและของบุคคลภายนอก โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญสมดุลกับผลประโยชน์และสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่านในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ และ/หรือ (6) เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
กรณีที่ท่านเป็นลูกค้า :
- วัตถุประสงค์ที่บริษัทดำเนินการโดยต้องได้รับความยินยอมจากท่านเสียก่อน
- การสมัครสมาชิกรับข่าวสาร โปรโมชั่น ส่วนลด ทาง Email จากบริษัท เพื่อให้ท่านได้รับแจ้งข่าวสารทางการตลาด โปรโมชั่น ส่วนลดต่างๆ และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า เช่น สินค้าใหม่ สินค้าแนะนำ โดยบริษัทและ/หรือบุคคลภายนอก ที่บริษัทไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นใดได้
- วัตถุประสงค์ที่บริษัทดำเนินการโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นๆ
บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- ฐานการปฏิบัติตามสัญญา : เพื่อให้บริการตามที่ท่านร้องขอ เช่น การสมัครเป็นสมาชิกใน Website การตอบข้อสอบถามเกี่ยวกับสินค้า การรับคำสั่งซื้อสินค้า การส่งมอบสินค้าตามที่อยู่จัดส่ง การตรวจสอบสถานะการจัดส่งสินค้า การออกใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี การแก้ไขและปรับปรุงบริการตามที่ท่านได้แจ้งผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัท โดยเป็นไปตามฐานการปฏิบัติตามสัญญา
- ฐานประโยชน์โดยธรรมของบริษัท : เพื่อบังคับและปกป้องสิทธิตามกฎหมายและข้อเรียกร้องของบริษัท เช่น การระงับและการจัดการข้อพิพาท การดำเนินการตามสัญญา และก่อตั้ง ใช้สิทธิ หรือปกป้องสิทธิตามข้อเรียกร้องต่างๆ
- ฐานการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายและคำสั่งของหน่วยงานรัฐ : เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และ/หรือให้ความร่วมมือกับศาล ผู้กำกับดูแล หน่วยงานรัฐ และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ในกรณีที่มีเหตุผลอันควรเชื่อได้ว่าบริษัทต้องดำเนินการดังกล่าว และเมื่อการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจำเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย กระบวนพิจารณา หรือคำสั่งจากรัฐโดยเคร่งครัด เพื่อออกใบกำกับภาษี เพื่อเปิดเผยข้อมูลแก่หน่วยงานทางภาษี หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการเงิน และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานของรัฐอื่นๆ และเพื่อการสืบสวนสอบสวนหรือป้องกันอาชญากรรม
กรณีที่ท่านเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ :
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- ใช้หรือเปิดเผย ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรศัพท์มือถือ เบอร์โทรสาร Email เพื่อการติดต่อสื่อสารระหว่างบริษัทกับท่านอันเกี่ยวกับการทำงานร่วมกัน หรือ การเป็นคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน เช่น การติดต่อสื่อสารผ่านการส่งเอกสาร การตอบคำถาม การตอบกลับคำขอหรือการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการ โดยเป็นไปตามฐานการปฏิบัติตามสัญญา
- ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการพิจารณาประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติของท่านเพื่อคัดเลือกเป็นคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ การยืนยันตัวตนของท่านและสถานะการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ การตรวจสอบสถานะกิจการ หรือการตรวจสอบประวัติในรูปแบบอื่นๆ หรือการประเมินความเสี่ยงสำหรับท่านและพันธมิตรทางธุรกิจ (รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และ/หรือ จากบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงาน) การออกคำขอเสนอราคา การเข้าทำสัญญากับท่านหรือพันธมิตรทางธุรกิจ การเปิดหน้าบัญชีลูกค้า การพิจารณาวงเงินเครดิต การจัดการฐานลูกค้า การจัดทำสัญญาซื้อขาย สัญญาจ้างงาน สัญญาจ้างทำของ และสัญญาอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ การประเมินการบริหารงานของท่านและพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเป็นไปตามฐานการปฏิบัติตามสัญญา และประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท
- ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการวางแผน การดำเนินการ และการบริหารจัดการความสัมพันธ์และสิทธิทางสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การพิจารณาแต่งตั้ง ยกเลิก หรือมอบอำนาจให้พันธมิตรทางธุรกิจสำหรับการทำธุรกรรมต่างๆ หรือการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ การประมวลผลการชำระเงิน การทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชี การตรวจสอบบัญชี การออกใบเรียกเก็บเงิน และการเก็บเงิน การจัดการให้มีการขนส่งและจัดส่ง การให้บริการสนับสนุน โดยเป็นไปตามฐานการปฏิบัติตามสัญญา
- ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดจน ดำเนินการจัดการอื่นๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามสัญญาได้สำเร็จ เป็นต้น
- เพื่อปฏิบัติตามนโยบายภายในและกฎหมายที่ใช้บังคับรวมถึงข้อบังคับ ระเบียบ และแนวทางปฏิบัติต่างๆ (เช่น เพื่อขอใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจตามที่กฎหมายกำหนด) และการประสานงานหรือการติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาล ศาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) รวมถึงการสืบสวน การร้องเรียน และ/หรือ การป้องกันอาชญากรรมหรือการฉ้อโกง โดยเป็นไปตามฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย
- เพื่อการจัดการกับข้อพิพาทเช่น การยุติข้อพิพาท การบังคับใช้สัญญา การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การก่อตั้ง การใช้ หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย รวมถึงการมอบอำนาจ
- บริษัทจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บริษัทมีวิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังนี้
- บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลของท่านไว้ในระบบจัดเก็บเอกสารและระบบ Database ของของบริษัทที่มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และมีระบบป้องกันการเข้าถึงโดยมิชอบ (Access Control)
- บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นความลับและจะไม่เปิดเผยแก่ผู้ใด เว้นแต่กรณีจำเป็น โดยบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เฉพาะเท่าที่จำเป็น สมควรแก่กรณี และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการ หรือหน่วยงานกำกับดูแลลูกค้า รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเป็นการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมายรวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้ของบริษัท
บริษัทอาจมีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ เฉพาะเท่าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท และมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ (appropriate safeguard) และท่านสามารถบังคับใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาตามกฎหมายที่จะบังคับได้ที่ดีกว่าหรือเทียบเท่ากับมาตรฐานของบริษัท
- บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร และเก็บรักษาเป็นระยะเวลานานเท่าใด
บริษัทมีวิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังนี้
- ลักษณะการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
- กรณีได้รับข้อมูลแบบกระดาษ – บริษัทจะนำข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาในรูปแบบกระดาษมาเรียบเรียงและนำเข้าในระบบ Database พร้อมกับสแกนเอกสารกระดาษของบริษัทให้อยู่ในรูปไฟล์ PDF ที่แก้ไขไม่ได้แต่สามารถนำกลับมาอ้างอิงได้โดยเนื้อความไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อดำเนินการนำเข้าข้อมูลและสแกนเป็นไฟล์ PDF เรียบร้อยแล้ว บริษัทจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบกระดาษในตู้เก็บเอกสารที่มีความมั่นคงปลอดภัยและจำกัดการเข้าถึงเฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
- กรณีได้รับข้อมูลแบบดิจิทัล – บริษัทจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาเก็บรักษาไว้บน Database ของบริษัททันที ทั้งนี้ Database ของบริษัทมีระบบป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต (unauthorized access) และ มาตรการปกป้องรักษาที่เพียงพอ (Data protection measure)
- สถานที่จัดเก็บ : ระบบ Database และระบบจัดเก็บเอกสาร ที่มีการจำกัดการเข้าถึงและมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลอย่างเหมาะสม
- ระยะเวลาจัดเก็บ
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือภายในระยะเวลาที่มีสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายระหว่างท่านและบริษัทฯ หรือภายในระยะเวลาการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของคู่สัญญา อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้กำหนดไว้เบื้องต้นแล้ว หรือบริษัทไม่มีสิทธิหรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว บริษัทจะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ด้วยวิธีการ ลบ หรือ นิรนาม ข้อมูลภายใน 30 วันนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาจัดเก็บและประมวลผล
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายในบริษัทฯ และบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ดังนี้
- ภายในบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายในบริษัทฯ เฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น โดยบุคคลหรือทีมงานเหล่านี้ของบริษัท จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็นและเหมาะสม
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลตามบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ เช่น ฝ่ายจัดส่งสินค้า, ฝ่ายบัญชี, กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ, ฝ่ายการตลาต เป็นต้น
- ภายนอกบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับองค์กรภายนอก ดังนี้
- ผู้ให้บริการสำหรับดำเนินการใดๆ เช่น ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า (Logistics) ผู้ให้บริการด้านการสำรวจ วิจัยหรือวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ให้บริการทำโฆษณาและการตลาด ผู้ให้บริการระบบชำระเงิน เป็นต้น และเมื่อบริษัทได้ใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอก บริษัทจะกำหนดให้ ผู้ให้บริการเหล่านั้น ต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนด และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้เฉพาะตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้กำหนดหรือมีคำสั่งให้ผู้ให้บริการภายนอกดำเนินการ และผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าวจะไม่สามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้
- หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล เป็นต้น หรือหน่วยงานอื่นใดที่อาศัยอำนาจตามกฎหมาย
- สิทธิของเจ้าของข้อมูล
ท่านมีสิทธิในการดำเนินการใดๆกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
- สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw consent)
เมื่อท่านให้ความยินยอมกับบริษัทฯเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดโดยเฉพาะแล้ว ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่าน เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษา/สอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of Access)
ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้ ทั้งนี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของท่าน บริษัทต้องขอให้ท่านพิสูจน์ตัวตนของท่านก่อนจะให้ข้อมูลตามที่ท่านขอ
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to rectification)
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to erasure)
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอเพิกถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูล
- สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction of processing)
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว ในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำร้องขอใช้สิทธิแก้ไขหรือขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือกรณีที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
- สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability)
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่สามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค ทั้งนี้ บริษัทอาจขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านตามข้อนี้ ตามที่บริษัทเห็นสมควร
- สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยัน การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่กรณี
ท่านสามารถ download แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จาก “ www.gmmz.tv ” และส่งแบบคำร้องฯ พร้อมเอกสารยืนยันตัวตนของท่าน มายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ตามรายละเอียดการติดต่อ ดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นางสาวภรภัทร เนียมทอง
Email : [email protected]
โทร 02-836-7101
บริษัท แซท เทรดดิ้ง จำกัด
เลขที่ 50 ถนนสุขุมวิท 21 อโศก แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
ทั้งนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆในการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าว
- รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ |
บริษัท แซท เทรดดิ้ง จำกัด |
สถานที่ติดต่อ |
เลขที่ 50 ถนนสุขุมวิท 21 อโศก แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 |
ช่องทางการติดต่อ |
โทรศัพท์ : 02-853-8999 |
- รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อเจ้าหน้าที่ |
นางสาวภรภัทร เนียมทอง |
สถานที่ติดต่อ |
เลขที่ 50 ถนนสุขุมวิท 21 อโศก แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 |
ช่องทางการติดต่อ |
โทรศัพท์ : 02-836-7101 Email: [email protected] |
- รายละเอียดหน่วยงานกำกับดูแล
ในกรณีที่บริษัทหรือลูกจ้างหรือพนักงานของบริษัทฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแล ตามรายละเอียดดังนี้
ชื่อ |
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล |
สถานที่ติดต่อ |
สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม |
ช่องทางการติดต่อ |
โทรศัพท์ : 02-142-1033 Email : [email protected] |
ระยะเวลาในการติดต่อ / ร้องเรียน เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป
- นโยบายคุกกี้ (Cookies)
ในระหว่างการเข้าใช้งานWebsite ของบริษัท ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใช้งานWebsiteของท่านจะถูกบันทึกไว้ในรูปแบบของคุกกี้ โดยนโยบายคุกกี้นี้จะอธิบายความหมายของคุกกี้ การทำงาน วัตถุประสงค์ของคุกกี้ และวิธีการลบคุกกี้เพื่อความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยการเข้าใช้งานWebsiteของบริษัทฯ ถือว่าท่านได้อนุญาตให้บริษัทฯ ใช้คุกกี้ตามนโยบายคุกกี้ที่มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
คุกกี้คืออะไร
Cookies คือ Text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของท่าน เช่น แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ในขณะที่ท่านเข้าสู่ Websiteของบริษัท โดยคุกกี้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารของท่าน ที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล Log การใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมWebsite ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของ Cookies ได้จาก https://www.allaboutcookies.org
บริษัทใช้ Cookies อย่างไร
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชม Website จากผู้เข้าเยี่ยมชมทุกรายผ่าน Cookies หรือเทคโนโลยีที่ใกล้เคียง และบริษัท จะใช้ Cookies เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการของบริษัท ผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานบริการของบริษัท ทางอินเทอร์เน็ต โดยจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งานWebsiteของท่าน เพื่อนำไปพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ง่ายรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- เพื่อให้ท่านสามารถ Sign in บัญชีของท่านใน Website ของบริษัท ได้อย่างต่อเนื่อง
- เพื่อปกป้องท่านจากการฉ้อโกงและปรับปรุงความปลอดภัย
- เพื่อวิเคราะห์ว่าผลิตภัณฑ์บริการและข้อเสนอใดของบริษัทฯ ที่อาจเกี่ยวข้องกับท่าน
- เพื่อปรับปรุงการตลาดที่ท่านเห็นบนสื่อสังคมออนไลน์ แอปพลิเคชัน และ Website อื่น ๆ
ท่านสามารถปฏิเสธการรวบรวมข้อมูลผ่านคุกกี้ได้ผ่านการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่าน ทั้งนี้ การตั้งค่าดังกล่าวอาจลดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน Website ลง
- การเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์เดิม โดยหากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัท เก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปภายหลัง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับแล้ว ท่านสามารถแจ้งยกเลิกความยินยอมได้ตามช่องทางการใช้สิทธิเพิกถอนความยินยอมตามนโยบายฉบับนี้
- นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ Website อื่น
นโยบายความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการผ่าน Website ของบริษัทเท่านั้น หากท่านได้กด Link ไปยัง Website อื่น (แม้จะผ่านช่องทางใน Website ของบริษัทก็ตาม) ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏใน Website นั้นๆ แยกต่างหากจากของบริษัท
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการ update ข้อมูลลงใน website ของบริษัทโดยเร็วที่สุด ปัจจุบันนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ได้รับการทบทวนปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 5 พฤษภาคม 2565